เจ้าอาวาส วัดดัง ซื้อบริการ ด.ญ.13 สวิงกิ้งสาววัย17 ขู่ถ้าไม่ยอมจะไม่ให้เข้าวัด ไม่เคยใช้ถุงยาง เบี้ยวจ่ายเงิน แจ้งความกลับถูกตร.ตำหนิ หาว่าแม่ดูแลลูกไม่ดี
วันที่ 2 พ.ค.2568 น.ส.เอ (นามสมมติ) พาลูกสาวชื่อ ด.ญ.บี (นามสมมติ) อายุ 13 ปี และ น.ส.ซี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี เข้าร้องเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกเจ้าอาวาสวัดดังล่อลวงไปข่มขืน เหตุเกิดช่วงเดือนก.พ.ที่ผ่านมา
ขณะที่เด็กทั้งสองคนเดินเที่ยวงานวัด เจ้าอาวาสเห็นจึงพูดกับ น.ส.ซี ว่าให้พาด.ญ.บี ขึ้นมาหาบนกุฏิ ก่อนจะบังคับให้เด็กทั้งสองคนถอดเสื้อผ้าและลงมือข่มขืนเด็กทั้งสองพร้อมกัน ก่อนจะปล่อยตัวกลับไป
หลังจากนั้นก็ได้มีการติดต่อด.ญ.บีไปอีกครั้ง เพื่อให้มาร่วมเพศกันอีก ถ้าไม่มาจะไม่ให้เข้ามาเหยียบวัดอีกต่อไป และถ้าไม่มาจะให้เด็กวัดรุมโทรม เด็กจึงยอมมาหาและถูกข่มขืนเป็นรอบที่ 2 ก่อนจะนำเรื่องนี้ไปบอกแม่ จึงได้พาไปแจ้งความไว้ที่ สภ.หนองขาม และตัดสินใจพามาร้องเพจสายไหมต้องรอด
ล่าสุดผู้ปกครองพา ด.ญ.บี อายุ 13 ปี และ น.ส.ซี อายุ 18 ปี ผู้เสียหายที่ถูกเจ้าอาวาสวัดดังแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี ชักชวนซื้อบริการทางเพศจำนวนหลายครั้ง พร้อมกับข่มขู่หากไม่ยินยอมจะไม่ให้เข้ามาที่วัด
น.ส.ซี ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนมีแฟนหนุ่มที่เป็นลูกศิษย์ของพระและพักอาศัยอยู่ที่วัด จนกระทั่งเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา เจ้าอาวาสรูปดังกล่าวได้มาข่มขู่แฟนหนุ่มของตน หากต้องการจะอยู่ที่วัดและไม่อยากถูกทำร้ายร่างกายให้นำตนมาขายบริการให้กับเจ้าอาวาส ในราคา 1,500 บาท
ทำให้ตนต้องยอมให้เจ้าอาวาสล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งครั้งแรก ๆ ยังมีการจ่ายเงินในราคา 1,500 บาท แต่บางครั้งไม่ได้ให้เงิน อ้างค่อยมาเอาทีหลัง ในะระยะเวลา 2 ปี ตนมีอะไรกับทางเจ้าอาวาส 3-4 ครั้ง ในช่วงปี 2566 หลังจากนั้นก็ไม่ได้มีการติดต่อหรือเข้าไปภายในวัด
จนกระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 23 ก.พ.2568 ตนได้พา ด.ญ.บี อายุ 13 ปี เข้าไปเดินเที่ยวไปในวัด ทำให้ทางเจ้าอาวาสรายดังกล่าวเห็น และเกิดความพอใจในตัวด.ญ.บี ก่อนจะติดต่อตนว่าอยากจะได้ด.ญ.บี และพยายามให้ตนติดต่อด.ญ.บีให้มามีอะไรด้วย พร้อมกับข่มขู่ว่าหากไม่ทำตามจะไม่ให้พักอาศัยอยู่ภายในวัด พร้อมกับเสนอเงินให้ 1,500 บาท แลกกับการขอมีเพศสัมพันธ์ด้วย
จนกระทั่งตนต้องยอมพาด.ญ.บี เข้าไปหาเจ้าอาวาสในกุฏิ ก่อนที่เจ้าอาวาสได้บอกให้ตนและด.ญ.บีถอดเสื้อผ้า บังคับให้มีเพศสัมพันธ์ลักษณะสวิงกิ้งร่วมกัน ทุกครั้งที่อยู่ภายในห้องและมีอะไรกัน ภายในห้องจะมีกล้องวงจรปิดซึ่งไม่มั่นใจว่ามีการบันทึกภาพในช่วงจังหวะที่มีมีเพศสัมพันธ์ด้วยหรือไม่
แต่มีข้อมูลว่าทางเจ้าอาวาสดังกล่าวมีการนำภาพจากกล้องวงจรปิดไปเปิดเผยกับทางกลุ่มพระด้วยกัน ทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ยอมรับว่าทางเจ้าอาวาสรายดังกล่าวกลับไม่ยอมป้องกัน และไม่ใส่ถุงยางอนามัย และทุกครั้งที่น่ากังวลคือเวลาตนเดินทางเข้าไปหาจะมีลูกศิษย์ของ เจ้าอาวาสในการยืนคุมอยู่บริเวณด้านหน้าคล้ายดูต้นทางด้วยทุกครั้ง
ด้าน ด.ญ.บี กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนได้ไปเที่ยวกับเพื่อนรุ่นพี่ ก่อนที่จะมีการเดินเข้าไปภายในกุฏิของเจ้าอาวาส และมีการนำเสนอเงินพร้อมกับข่มขู่ หากไม่ยินยอมจะไม่ให้เข้าไปเที่ยวในวัด และเจอกับเพื่อนชายที่ตนชอบ ด้วยความที่ตนรู้สึกกลัวเลยหลงเชื่อและยอมทำตาม จนกระทั่งถูกเจ้าอาวาสล่วงละเมิดทางเพศครั้งแรกในวันนั้น
กระทั่งวันที่ 28 ก.พ. ทางเจ้าอาวาสได้มีการทักแชทมาหาตนอีกครั้ง และบังคับให้ตนเข้าไปหาภายในกุฏิ และขอมีเพศสัมพันธ์อีกครั้ง ตนจึงต้องยินยอมเพราะถูกข่มขู่ลักษณะคล้ายแบบเดิม สุดท้ายเมื่อตนยิมยอม ทางเจ้าอาวาสกลับไม่ยอมให้เงินตามที่สัญญาไว้ และทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์เจ้าอาวาสจะไม่ใส่ถุงยางอนามัยแต่อย่างใด
เวลาผ่านไปตนพยายามปิดเรื่องดังกล่าวไว้แต่กลับมีคนรอบข้างรู้เรื่อง ก่อนที่จะนำมาล้อเรียนตน จนเรื่องดังกล่าวรู้ไปถึงครอบครัว แม่และพ่อมาถาม ทำให้ทางครอบครัวรับไม่ได้ จึงเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.ศรีราชา แต่ถูกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตำหนิ หาว่าแม่ดูแลลูกไม่ดีก่อนที่จะให้ทางคู่กรณีมาไกล่เกลี่ย ทางครอบครัวจึงยอมไม่ได้ จึงมีการเข้ามาร้องเรียนเพจสายไหมต้องรอด… อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_9743058
